นางอรัญญา ทองน้ำตะโก อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคม สภาวะเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชน โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงสาธารณสุข โดยมาตรการที่ 5 ด้านการป้องกัน กำหนดให้งดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัดของหน่วยงาน งดการจัดกิจกรรมในสถานที่ที่มีการรวมคนจำนวนมาก หรือมีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก เพื่อลดความแออัด ลดความเสี่ยง ลดโอกาสในการแพร่ระบาดของโรค โดยให้หน่วยงานพิจารณามาตรการเหลื่อมเวลาทำงาน และส่งเสริมให้ใช้ระบบอินเตอร์เน็ตมาบริการ จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อกระบวนการในการยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ที่กำหนดให้เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนด 2 เดือนนับแต่วันประกาศโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ซึ่งเจ้าหนี้อาจจะไม่สามารถเดินทางมาขอรับชำระหนี้ ณ กรมบังคับคดีได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังกล่าวข้างต้น และเป็นการคุ้มครองสิทธิของเจ้าหนี้ในกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายไม่ให้เกิดความเสียหายในกรณีที่จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด กรมบังคับคดีจึงได้จัดช่องทางในการยื่นคำขอรับชำระหนี้สำหรับเจ้าหนี้ที่ไม่สามารถเดินทางมายื่นคำขอรับชำระหนี้ ณ กรมบังคับคดีได้ โดยให้เจ้าหนี้สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ ณ สำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ หากเจ้าหนี้ไม่สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ทันภายในกำหนดเวลา ๒ เดือนนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เจ้าหนี้อาจทำคำขอโดยทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาลล้มละลายกลางว่า เจ้าหนี้ประสงค์จะยื่นขอรับชำระหนี้ และแสดงถึงเหตุสุดวิสัยที่เจ้าหนี้ไม่อาจยื่นขอรับชำระหนี้ได้ทันภายในกำหนดเวลา หากศาลเห็นว่ากรณีเป็นเหตุสุดวิสัย และมีเหตุผลอันสมควรที่จะให้เจ้าหนี้ยื่นขอรับชำระหนี้ ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ยื่นขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด ทั้งนี้ ตามมาตรา ๙๑/๑ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕๘