นางอรัญญา ทองน้ำตะโก อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019 : COVID – 19) ในหลายประเทศ โดยประเทศไทยอยู่ในระยะ 2 คือ เริ่มมีการติดเชื้อจากคนสู่คนภายในประเทศและได้ยกระดับการแจ้งเตือนการระบาดของโรคติดเชื้อ COVID – 19 เป็นระดับ 3 คือ ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่พบการระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าว โดยประเทศหรือเขตการปกครองที่เสี่ยงต่อโรคติดเชื้อดังกล่าว ประกอบด้วย 1. สาธารณรัฐเกาหลี 2. ไต้หวัน 3. สาธารณรัฐประชาชนจีน 4. เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน 5. เขตบริหารพิเศษฮ่องกง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน 6. ญี่ปุ่น 7. มาเลเซีย 8. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 9. สาธารณรัฐสิงคโปร์ 10. สาธารณรัฐอิตาลี 11. สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน 12. สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี 13. สาธารณรัฐฝรั่งเศส และ 14. ประเทศหรือเขตปกครองอื่นตามที่ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขกำหนดเพิ่มเติม จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการอนุญาต ให้ลูกหนี้ในคดีล้มละลายเดินทางออกนอกราชอาณาจักร รวมทั้งการให้ลูกหนี้มารายงานตัวต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ภายหลังเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักร ดังนั้น เพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดต่ออันตรายทั้งแก่เจ้าหน้าที่ของกรมบังคับคดี และประชาชนทั่วไป กรมบังคับคดีได้กำหนดแนวปฏิบัติกรณีลูกหนี้ในคดีล้มละลายขออนุญาตเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เดินทางไปนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 67 (3) เฉพาะการขออนุญาตเดินทางไปยังประเทศหรือเขตปกครองที่เสี่ยงต่อโรคติดเชื้อดังกล่าว ดังนี้ กำหนดให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอความร่วมมือจากลูกหนี้งดการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หากมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว เมื่อลูกหนี้เดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรแล้วให้ลูกหนี้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ด้วยวิธีทางโทรศัพท์ หรือส่งเป็นเอกสารหนังสือ หรือคำร้อง ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) หรือโทรสารพร้อมส่งหลักฐานประกอบ เช่น ตราประทับการเดินทางเข้าประเทศไทย ในหนังสือเดินทาง บัตรโดยสารขาเข้า เป็นต้น แทนการรายงานตัวด้วยตนเอง