วันนี้ 25 เมษายน 2562 เวลา 10.00 น. หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการกระทรวงยุติธรรม กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “จริยธรรมและหลักธรรมาภิบาลกับการการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน” ภายในการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการบังคับคดีแพ่ง ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี อย่างฉับพลัน โดยมีนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี Marc Schmitz ประธานสภาเจ้าพนักงานบังคับคดีระหว่างประเทศ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรมบังคับคดี และผู้เข้าร่วมประชุม เข้าร่วมรับฟัง ณ ห้องรอยัล ออคิด บอลรูม โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพมหานคร หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการกระทรวงยุติธรรม กล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยมีใจความสำคัญว่าการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในสังคมปัจจุบันนั้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของเทคโนโลยี ส่งผลให้คนในยุคปัจจุบันมีความแตกต่างจากสมัยก่อน ทั้งพฤติกรรมและวิถีชีวิต การแสดงออกทางความคิดของผู้คนในสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ส่วนใหญ่จะสร้างข้อสรุปหรือตัดสินสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ควร การกระทำดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่นได้ ดังนั้น ควรตระหนักถึงภายใต้การเปลี่ยนของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว คือการมีจริยธรรม และการมี ธรรมาภิบาลที่ดีของเจ้าหน้าที่ หลักธรรมาภิบาล ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ในการบริหารจัดการประเทศและเศรษฐกิจนั้นหลักธรรมาภิบาลเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ ๙) ทรงเป็นตัวอย่างที่ดีในการปกครองด้วยหลักธรรมาภิบาล ดังกระแสพระราชดำรัสที่ว่า “ในทุกวันนี้ประเทศไทยมีทรัพยากร ทั้งธรรมชาติและมนุษย์ที่สามารถสร้างประโยชน์ที่ยั่งยืนแก่ประเทศได้ โดยเราควรนำทรัพยากรเหล่านี้มาใช้ในทางวิชาการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด” และกระแสพระราชดำรัสอีกตอนหนึ่งที่ว่า “ความรู้นั้นมี ๒ ประเภท ได้แก่ ความรู้ทางวิชาการ และความรู้ทางธรรมะ คนที่ใช้แต่ความรู้ทางวิชาการโดยไม่ใช้ธรรมะ ไม่สามารถทำประโยชน์ได้อย่างสูงสุด” ในโอกาสนี้จึงขอแนะนำให้ทุกท่านน้อมนำเอาปรัชญาของรัชกาลที่ ๙ มาปรับใช้กับการทำงานในด้านกฎหมาย ได้แก่ “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน โดยเริ่มต้นจากเข้าใจปัญหา ศึกษาข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่และที่เกี่ยวข้อง ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น เพื่อหาวิธีการที่เป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหา และเข้าถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ องค์ความรู้หรือการเรียนรู้ นอกเหนือจากการเรียนรู้ทางด้านเนื้อหาวิชาการแล้ว ต้องเรียนรู้ ในด้านอื่นๆ ด้วย ทั้งทางด้านคุณธรรมและจริยธรรม การเรียนรู้ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น และการเรียนรู้ในการเป็นคนดีในสังคม ถึงจะสามารถนำความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในสังคมได้อย่าง เป็นรูปธรรม ดังนั้น ถึงแม้สังคมโลกปัจจุบันจะมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่หากเรายังดำรงหลักธรรมาภิบาลอยู่นั้น ประชาชนก็จะสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ เจ้าหน้าที่รัฐสามารถให้บริการประชาชนได้ด้วยความเป็นธรรม เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างฉับพลัน