วันนี้ (20 เมษายน 2561) เวลา 10.00 น. นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี พร้อมด้วยนางศศิวิมล ธนศานติ รองอธิบดีกรมบังคับคดี และนางเพ็ญรวี มาแสง ผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ แถลงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 เน้นการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และนโยบายหลักการบริหารงานที่สำคัญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยผลการดำเนินงานมีดังนี้ (1.) ด้านการเสริมสร้างสภาพคล่องและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ได้ดำเนินการตามแผน “2 เร่ง” คือ เร่งรัดการประชุมกำหนดราคาทรัพย์ และเร่งรัดการประกาศขายทอดตลาด เพื่อเร่งผลักดันทรัพย์สินรอการขายของกรมบังคับคดี ในไตรมาสที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 สามารถผลักดันทรัพย์สินได้เป็นเงินจำนวน 35,275,434,885 บาท คิดเป็นร้อยละ 32.07ของเป้าหมายจำนวน 110,000,000 บาท (2.) ด้านการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ได้ดำเนิน การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชั้นบังคับคดี ได้ประสานเจ้าหนี้กลุ่มใหม่และจัดมหกรรมการไกล่เกลี่ยสำเร็จ 6,954 เรื่อง (3.) ด้านการบริหารการจัดการคดี (Case Management) กรมบังคับคดีมีการกำหนดนโยบายในการบริหารจัดการคดี อาทิ การกำหนดระยะเวลาในการจัดทำบัญชีรับ-จ่าย ภายใน 45 วัน การกำหนด KPI เพื่อเร่งดำเนินการคดีค้าง 10 ปี สามารดำเนินการเสร็จร้อยละ 14.55 (4.) ด้านการสร้างความรับรู้ทางกฎหมายและการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย ด้วยการจัดทำคู่มือกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ สำหรับเกษตรกรและประชาชน เพื่อเสริมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจทางกฎหมายให้กับเกษตรกรและประชาชน รวมถึงการลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับเรื่องราวร้องทุกข์ และให้คำปรึกษาทางกฎหมาย แก่ประเทศ (5.) ด้านการบูรณาการทำงานและการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จำนวน 3 หน่วยงาน ได้แก่ 1.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 2.) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และ3.) บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (6.) ด้านการพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย โดยพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2561 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2561 มีผลบังคับใช้วันที่ 3 มีนาคม 2561 ได้มีประกาศอธิบดี กรมบังคับคดีทางเว็บไซต์กรมบังคับคดี เรื่อง กำหนดสื่ออิเล็กทรอนิกส์สาธารณะเพื่อโฆษณาคำสั่งหรือ คำพิพากษาของศาล หรือประกาศหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลาย รวมถึงได้มีการบรรยายเพื่อสร้างการรับรู้แก่เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีและประชาชนทั่วไป (7.) การจัดตั้งสถาบันวิชาชีพบังคับคดีแพ่งและล้มละลาย (Service..Delivery..Unit.:.SDU) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการศึกษาแนวทางและรูปแบบการบริหารจัดการ โดยมีกำหนดเปิดสถาบัน เพื่อการบังคับคดีประมาณเดือนพฤษภาคม 2561 อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวเพิ่มเติมถึงแผนกิจกรรมที่สำคัญของกรมบังคับคดี โดยในวันที่ 29 เมษายน 2561 กรมบังคับคดีจัดมหกรรมขายทอดตลาดของธนาคารกรุงไทย นัดที่ 1 ณ ห้อง Meeting room 1 - 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และในช่วงเดือนพฤษภาคม 2561 กรมบังคับคดีมีกำหนดจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ (1.) ระหว่างวันที่ 1 - 4 พฤษภาคม 2561 กำหนดจัดประชุมคองเกรสนานาชาติกับ สภา เจ้าพนักงานบังคับคดีระหว่างประเทศ ครั้งที่ 23 พ.ศ. 2561 (UIHJ..XXXIII..Congress.:.Bangkok..2018) ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร (2.) ระหว่างวันที่ 10 - 13 พฤษภาคม 2561 จัดมหกรรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีร่วมกับสถาบันทางการเงินจำนวน 12 แห่ง และการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ภายใต้แนวคิด “LED 4.0 WEALTH TRANSFORMATION..มิติใหม่แห่งความมั่นคง”..ภายในงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 18 ประจำปี 2561 : MONEY..EXPO..2018 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 - 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี (3.) ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2561 มหกรรมขายทอดตลาดทรัพย์ของบุคคลล้มละลาย นัดที่ 1 นัดที่ 2 ในวันที่ 16 มิถุนายน 2561 นัดที่ 3 ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2561 และนัดที่ 4 ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 ณ ห้องขายทอดตลาด กรมบังคับคดี (4.) ระหว่างวันที่ 15 - 17 พฤษภาคม 2561 ธนาคารโลก (World.Bank)..ตรวจการดำเนินงานตามตัวชี้วัดที่ 9 การบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง และตัวชี้วัดที่ 10 การแก้ไขปัญหาการล้มละลาย นอกจากนี้ มีกำหนดจัดมหกรรมขายทอดตลาดทรัพย์สินของบริษัท บริหารสินทรัพย์ สุขุมวิท จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2561 และการจัดประชุมด้านการบังคับคดีร่วมกับหน่วยงานด้านการบังคับคดีล้มละลายของประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศคู่เจราจา (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) โดยมีกำหนดจัดขึ้นประมาณเดือนสิงหาคม 2561
