วันนี้ (1 พฤศจิกายน 2560) เวลา 10.00 น. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ได้กำหนดจัดประชุมเพื่อชี้แจงผลการจัดอันดับความยาก – ง่าย ในการประกอบธุรกิจของประเทศไทย ตามรายงาน Doing Business 2018 ของธนาคารโลก โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม โดยการประชุมดังกล่าวได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เข้ารับฟังและชี้แจงผลการจัดอันดับตามที่ธนาคารโลกได้เผยแพร่รายงาน Doing Business 2018 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2559 เวลา 21.00 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) และประเทศไทยได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 26 จาก 190 ประเทศ โดยมีอันดับที่ดีขึ้นถึง 20 อันดับ จากปีที่ผ่านมา (อันดับที่ 46) ทั้งนี้ นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี พร้อมด้วยนางภัทรภร เวชรังษี ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบการบังคับคดีและประเมินราคาทรัพย์ และนางสาวรังสิมา รัตนะ นิติกรชำนาญการ สำนักฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว โดยในตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับกรมบังคับคดี ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 5 การได้รับสินเชื่อ ประเทศไทยได้อันดับที่ดีขึ้นคืออันดับที่ 42 จากเดิมในอันดับที่ 82 ในตัวชี้วัดที่ 9 การบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลงที่กรมบังคับคดีดำเนินการร่วมกับสำนักงานศาลยุติธรรม ประเทศไทยได้อันดับที่ดีขึ้นคือ อันดับที่ 34 จากเดิมอันดับที่ 51 และในตัวชี้วัดที่ 10 การแก้ไขปัญหาการล้มละลายที่กรมบังคับคดีรับผิดชอบ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 26 และได้รับการประเมินในส่วนตัวชี้วัดย่อยดีขึ้น ซึ่งยังเป็นอันดับที่ดีที่สุดในอาเซียน โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้กรุณาให้ความสำคัญต่อการปฏิรูปให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของประเทศไทยในการพัฒนาประเทศ ช่วยดึงดูดการลงทุนเข้ามาในประเทศ และลดปัญหาการคอรัปชั่น ซึ่งผลประโยชน์ในท้ายที่สุดจะตกได้แก่ประชาชนโดยรวม พร้อมทั้งขอให้หน่วยงานราชการมุ่งมั่นพัฒนาการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจต่อไปท่ามกลางกระแสการเร่งรัดพัฒนาจากทุกประเทศทั่วโลก ในช่วงท้าย นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี ได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวถึงผลการจัดอันดับในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมบังคับคดี และการดำเนินการศึกษาและยกร่างกฎหมายเกี่ยวกับหลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งจะมีการนัดประชุมคณะทำงานในวันพรุ่งนี้