วันนี้ (9 ตุลาคม 2560) เวลา 10.00 น. กรมบังคับคดี ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ การติดตามดูแลบริษัทที่มีการระดมทุนหรือผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้หรือตกเป็นลูกหนี้ ในคดีล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 และการจัดทำสถาปัตยกรรมองค์กร (Enterprise Architecture) เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลยิ่งขึ้น โดยมีนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี และนายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นประธานการลงนาม ซึ่งการลงนามดังกล่าวมีนางสาวรัตนาวดี สมบูรณ์ รองอธิบดีกรมบังคับคดี และนางศศิวิมล ธนศานติ รองอธิบดีกรมบังคับคดี ร่วมลงนามในฐานะพยาน ณ ห้องประชุม 1201 ชั้น 12 อาคารสำนักงาน ก.ล.ต. ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงทั้ง 2 ฉบับในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมและพัฒนาการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเป็นระบบ ความร่วมมือตามบันทึกข้อตกลงประกอบด้วย ความร่วมมือในการติดตามดูแล บริษัทจดทะเบียน บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้หรือตกเป็นลูกหนี้ในคดีล้มละลาย ด้วยการแลกเปลี่ยนและสนับสนุนข้อมูล ความรู้ ความเชี่ยวชาญของแต่ละหน่วยงาน รวมถึงการประสานความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่และก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และประสบการณ์ในการจัดทำสถาปัตยกรรมองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของทั้งสองหน่วยงานให้คุ้มค่า และสมบูรณ์ถูกต้องยิ่งขึ้น ความร่วมมือดังกล่าวสอดคล้องกับพันธกิจของ ก.ล.ต. ในการกำกับและพัฒนาตลาดทุนให้น่าเชื่อถือและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์กรมบังคับคดีระยะ 20 ปี เรื่องการเป็นศูนย์ข้อมูลกลางเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ (Debtor Data Center) และบูรณาการการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการรวบรวมทรัพย์สินในคดีล้มละลาย และฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ เพื่อประโยชน์แก่บรรดาเจ้าหนี้ ลูกหนี้ ตลอดจนการคุ้มครองผู้ลงทุน