Page 15 - วารสารกรมบังคับคดี ปีที่ 24 ฉบับที่ 124
P. 15

8. เจ้าหนี้ตามคำาพิพากษา (โจทก์) ในคดีที่เจ้าพนักงานบังคับดีขายทอดตลาดโดยติดภาระจำานองไม่ได้รับชำาระหนี้

          ครบถ้วนตามคำาพิพากษา เนื่องจากผู้ซื้อทรัพย์วางชำาระค่าซื้อทรัพย์ตามข้อกำาหนดในการกำาหนดราคาในการขายทอดตลาด
          แต่หากเป็นทรัพย์ที่ติดภาระจำานองแล้ว ผู้ซื้อวางเพียงเล็กน้อยเพียงพอกับค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมชั้นบังคับคดีเท่านั้น
               9. ผลพวงจากการขายทอดตลาดโดยติดภาระจำานอง และผู้ซื้อไม่ยอมไปไถ่ถอนจำานอง ส่งผลให้เกิดหนี้เน่าหรือ

          หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ วนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ


          ข้อเสนอแนะ


               เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับคู่ความทุกฝ่าย
          ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ตามคำาพิพากษา (โจทก์) ลูกหนี้

          ตามคำาพิพากษา (จำาเลย) เจ้าหนี้ผู้รับจำานอง ผู้เขียน
          ขอเสนอแนะแนวทาง ดังนี้

               1.  เสนอให้มีการแก้ไขกฎกระทรวงให้อำานาจ
          คณะกรรมการกำาหนดหลักเกณฑ์ในการกำาหนดราคา
          เริ่มต้นและราคาที่สมควรขายในการขายทอดตลาด

          มีอำานาจออกมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ซื้อทรัพย์
          โดยติดภาระจำานองไม่ยอมไปไถ่ถอนจำานองกับเจ้าหนี้ผู้รับจำานองโดยการเพิ่มเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายโดยให้ผู้ซื้อได้
          จะต้องรับภาระหนี้ตามสัญญาจำานองทั้งหนี้ประธานและหนี้อุปกรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่มีอยู่แทน

          ลูกหนี้ นับแต่วันซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดจนถึงวันไถ่ถอนจำานอง
               2. เสนอให้มีการแก้ไขคำาสั่งกรมบังคับคดีที่ 503/2560 ฉบับลงวันที่ 1 กันยายน 2560 ในข้อที่ 10 โดยเพิ่มเติม
          ในวรรคที่สามระบุว่า “ในกรณีประกาศขายทอดตลาดโดยการจำานองติดไป ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีระบุข้อสัญญา

          และเงื่อนไขเพิ่มเติมว่าผู้ซื้อได้จะต้องรับภาระหนี้ตามสัญญาจำานองทั้งหนี้ประธานและค่าอุปกรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่ง
          และพาณิชย์ที่มีอยู่แทนลูกหนี้ นับแต่วันที่ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดเป็นต้นไปจนกว่าจะไถ่ถอนจำานอง”

               3.  เสนอให้แก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 334 โดยจากเดิมระบุว่า “เมื่อเจ้าพนักงาน
          บังคับคดีโอนอสังหาริมทรัพย์ที่ขายให้แก่ผู้ซื้อหากทรัพย์สินที่โอนนั้นลูกหนี้ตามคำาพิพากษาหรือบริวารอยู่อาศัย
          และลูกหนี้ตามคำาพิพากษาหรือบริวารไม่ยอมออกไปจากอสังหาริมทรัพย์นั้นผู้ซื้อชอบที่จะยื่นคำาขอฝ่ายเดียวต่อศาล

          ที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่ในเขตศาล...............”
               โดยแก้ไขเป็น “เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีโอนอสังหาริมทรัพย์ที่ขายให้แก่ผู้ซื้อที่จดทะเบียนโอนแล้ว หากทรัพย์สิน

          ที่โอนนั้นลูกหนี้ตามคำาพิพากษาหรือบริวารอยู่อาศัยและลูกหนี้ตามคำาพิพากษาหรือบริวารไม่ยอมออกไปจาก
          อสังหาริมทรัพย์นั้นผู้ซื้อชอบที่จะยื่นคำาขอฝ่ายเดียวต่อศาลที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่ในเขตศาล….....…….”



          อ้างอิง  : www.prachachat.net
                 : คำาสั่งกรมบังคับคดีที่ 501/2560 ลงวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560
                 : รายงานประจำาปีกรมบังคับคดี พ.ศ. 2560 - 2562

                 : กฎกระทรวง  ฉบับลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563
                 : ประกาศคณะกรรมการกำาหนดหลักเกณฑ์ในการกำาหนดราคาเริ่มต้นและราคาที่สมควรในการขายทอดตลาด
                   ฉบับลงวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2563
                 : ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702, มาตรา 736-744

                 : คำาพิพากษาฎีกาที่ 557/2561, 3259/2562, 508/2506, 132/2477
                                                          14


                                                กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20