Page 20 - วารสารกรมบังคับคดี ปีที่ 24 ฉบับที่ 124
P. 20
ในการบังคับคดีซึ่งต้องเสียหายเพราะเหตุดังกล่าว ยื่นคำาร้องต่อศาล ให้ศาลมีอำานาจ
สั่งเพิกถอนหรือแก้ไขคำาบังคับ หมายบังคับคดี หรือคำาสั่งดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วน
หรือมีคำาสั่งอย่างใดตามที่ศาลเห็นสมควร”
มาตรา 295 วรรคสอง “ภายใต้บังคับมาตรา 331 วรรคสาม ถ้าเจ้าพนักงาน
บังคับคดีได้ดำาเนินการบังคับคดีบกพร่อง ผิดพลาด หรือฝ่าฝืนกฎหมาย เมื่อศาล
เห็นสมควรไม่ว่าในเวลาใดก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง หรือเมื่อเจ้าหนี้ตามคำาพิพากษา
ลูกหนี้ตามคำาพิพากษา หรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี ซึ่งต้อง
เสียหายเพราะเหตุดังกล่าว ยื่นคำาร้องต่อศาล ให้ศาลมีอำานาจสั่งเพิกถอนหรือแก้ไข
กระบวนวิธีการบังคับคดีทั้งปวงหรือวิธีการบังคับใด ๆ โดยเฉพาะหรือมีคำาสั่งกำาหนด
วิธีการอย่างใดแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีตามที่ศาลเห็นสมควร”
มาตรา 295 วรรคสาม “การยื่นคำาร้องตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองอาจกระทำาได้ไม่ว่าในเวลาใดก่อนการบังคับคดี
ได้เสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่าสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้น ทั้งนี้ ผู้ยื่นคำาร้อง
ต้องมิได้ดำาเนินการอันใดขึ้นใหม่หลังจากได้ทราบเรื่องบกพร่อง ผิดพลาด หรือฝ่าฝืนกฎหมายนั้นแล้ว หรือต้องมิได้
ให้สัตยาบันแก่การกระทำานั้น และในกรณีเช่นว่านี้ผู้ยื่นคำาร้องจะขอต่อศาลในขณะเดียวกันนั้นให้มีคำาสั่งงดการบังคับคดี
ไว้ในระหว่างวินิจฉัยชี้ขาดก็ได้”
จะเห็นได้ว่าตามบทบัญญัติมาตรา 295 ทั้งสามวรรคดังกล่าวข้างต้นได้กำาหนดระยะเวลาในการขอเพิกถอน
แก้ไขคำาบังคับ หมายบังคับคดี คำาสั่งศาลในชั้นบังคับคดี หรือการดำาเนินการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดี ที่บกพร่อง
ผิดพลาด หรือฝ่าฝืนกฎหมาย โดยกำาหนดให้เจ้าหนี้ตามคำาพิพากษา ลูกหนี้ตามคำาพิพากษา หรือบุคคลผู้มีส่วนได้เสีย
ในการบังคับคดีที่ต้องเสียหายเพราะเหตุดังกล่าว ว่าจะต้องยื่นคำาร้องต่อศาลก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่า
15 วัน นับแต่วันได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้น
ดังนี้จึงมีสิ่งที่จะต้องพิจารณาต่อไปคือเมื่อไหร่จึงจะถือว่าการบังคับคดีเสร็จลง หรือการบังคับคดีจะเสร็จลงเมื่อใด
เราจึงต้องไปพิจารณามาตรา 295 วรรคสี่ ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ให้ถือว่า การบังคับคดีได้เสร็จลง
เมื่อได้มีการดำาเนินการดังต่อไปนี้
19
กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม