Page 19 - วารสารกรมบังคับคดี ปีที่ 24 ฉบับที่ 124
P. 19
พิทักษ์ทรัพย์ การบังคับคดีโดยการอายัดเงินดังกล่าวไม่อาจใช้ยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย
พุทธศักราช 2483 มาตรา 110 (คำาพิพากษาศาลฎีกาที่ 15283/2558)
คำาพิพากษาศาลฎีกาที่ 15283/2558 “..แม้คำาพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในคดีนี้ยังคงมีผลผูกพันโจทก์
และผู้คัดค้านอยู่ก็ตาม แต่เนื่องจากจำาเลยที่ 1 ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด อำานาจในการจัดการกิจการและรวบรวมทรัพย์สิน
ของจำาเลยที่ 1 ย่อมตกอยู่แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22 โจทก์
จะมีสิทธิได้รับชำาระหนี้จากกองทรัพย์สินของจำาเลยที่ 1 ก็แต่โดยปฏิบัติตามวิธีการที่กล่าวไว้ใน พ.ร.บ. ล้มละลาย
พ.ศ. 2483 มาตรา 27, 91 และ 94 ข้อเท็จจริงได้ความว่าศาลล้มละลายกลางมีคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำาเลยที่ 1 เด็ดขาด
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556 ในคดีหมายเลขแดงที่ ล.606/2556 แม้คดีนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะได้แจ้งอายัดเงินค่าจ้าง
แปรสภาพหัวมันสำาปะหลังไปยังผู้คัดค้านไว้ก่อนแล้วก็ตาม แต่เมื่อผู้คัดค้านยังไม่ได้ส่งเงินตามที่อายัดแก่เจ้าพนักงานบังคับคดี
ย่อมถือไม่ได้ว่าการบังคับคดีสำาเร็จบริบูรณ์ก่อนวันที่ศาลมีคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์ การบังคับคดีโดยการอายัดเงินดังกล่าวไม่อาจ
ใช้ยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำาเลยที่ 1 ได้ ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 110..”
ส่วนคำาว่า การบังคับคดีเสร็จลง จะหมายความว่าอย่างไร ก็ต้องมาพิจารณาถ้อยคำาในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพ่ง มาตรา 295 ซึ่งบัญญัติเกี่ยวกับการเพิกถอนหรือแก้ไขการบังคับคดีที่ผิดระเบียบไว้
มาตรา 295 วรรคแรก “ในกรณีที่คำาบังคับ
หมายบังคับคดี หรือคำาสั่งศาลในชั้นบังคับคดีบกพร่อง
ผิดพลาด หรือฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
จำาเป็นจะต้องเพิกถอนหรือแก้ไขคำาบังคับ หมายบังคับคดี
หรือคำาสั่งดังกล่าวนั้น เมื่อศาลเห็นสมควรไม่ว่าในเวลาใด
ก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง หรือเมื่อเจ้าพนักงาน
บังคับคดีรายงานต่อศาล หรือเมื่อเจ้าหนี้ตามคำาพิพากษา
ลูกหนี้ตามคำาพิพากษา หรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสีย
18
กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม