Page 18 - วารสารกรมบังคับคดี ปีที่ 24 ฉบับที่ 124
P. 18
แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ไม่ได้ เว้นแต่การบังคับคดีนั้นได้สำาเร็จบริบูรณ์แล้วก่อนวันที่ศาลมีคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์
และการบังคับคดีนั้นให้ถือว่าได้สำาเร็จบริบูรณ์ เมื่อพ้นกำาหนดเวลาที่อนุญาตให้เจ้าหนี้ยื่นคำาขอเฉลี่ยตามประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งบัญญัติไว้ในมาตรา 290 วรรคสาม ว่าให้เจ้าหนี้ยื่นคำาขอเฉลี่ยก่อนสิ้นระยะเวลา 14 วัน
นับแต่วันขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึด เมื่อปรากฏว่าทรัพย์ของลูกหนี้ที่ถูกยึดในคดีแพ่งได้มีการขายทอดตลาดไป
พ้นระยะเวลา 14 วัน ก่อนศาลมีคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมไม่มีอำานาจโอนเงินในคดีแพ่งมา
ในคดีล้มละลาย เพราะการบังคับคดีแพ่งสำาเร็จบริบูรณ์แล้ว..”
จากคำาพิพากษาศาลฎีกาข้างต้นได้วินิจฉัยว่า การบังคับคดีแพ่งที่ยึดทรัพย์และนำาทรัพย์ที่ยึดออกขายทอดตลาด
เมื่อพ้นระยะเวลา 14 วัน (ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจาณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรคสาม (เดิม) ปัจจุบันกำาหนด
ระยะเวลาได้มีการแก้ไขเป็น 15 วัน และได้ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 326 วรรคสี่ ที่แก้ไขใหม่) ก่อนศาลมีคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์
การบังคับคดีแพ่งนั้นให้ถือว่าสำาเร็จบริบูรณ์ ใช้ยันต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มี
อำานาจสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีแพ่งโอนเงินเข้ามา
ในคดีล้มละลาย เพราะการบังคับคดีแพ่งสำาเร็จบริบูรณ์แล้ว
ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า การบังคับคดีสำาเร็จบริบูรณ์จึงพิจารณา
เพียงว่าการบังคับคดีแพ่งได้พ้นกำาหนดระยะเวลาขอเฉลี่ย
ทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว
หรือไม่เท่านั้น
ตัวอย่างกรณีการบังคับคดียังไม่สำาเร็จบริบูรณ์
การอายัดสิทธิเรียกร้องเงินตามสัญญาจ้าง แม้จะมีการ
อายัดไว้ก่อนศาลมีคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์ก็ตาม แต่หากยังไม่มี
การส่งเงินตามคำาสั่งอายัดแก่เจ้าพนักงานบังคับคดี ย่อมถือ
ไม่ได้ว่าการบังคับคดีสำาเร็จบริบูรณ์ก่อนวันที่ศาลมีคำาสั่ง
17
กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม