Page 13 - วารสารกรมบังคับคดี ปีที่ 23 ฉบับที่ 118 - กรมบังคับคดี
P. 13
(1) ยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำาพิพากษา ยกตัวอย่างเช่น
กรณีทรัพย์สินที่เป็นของเจ้าหนี้รวม ทรัพย์สินที่ลูกหนี้ตามคำาพิพากษาและบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวม เจ้าพนักงานบังคับคดี
มีอำานาจยึดทั้งหมดและขายทอดตลาดหรือจำาหน่ายโดยวิธีอื่นได้ทั้งหมด (เทียบฎีกาที่ 1026/2504 (ประชุมใหญ่) )
กรณีที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมี น.ส.3 ซึ่งมีชื่อจำาเลยและผู้ร้องเป็นเจ้าของรวม ผู้ร้องได้ครอบครองที่ดินครึ่งหนึ่งทางทิศเหนือ
เป็นส่วนสัดมาตั้งแต่ได้รับการยกให้จากบิดา เมื่อโจทก์รับจำานองที่ดินส่วนที่เป็นของจำาเลย โจทก์ก็ทราบว่ารับจำานองเฉพาะที่ดิน
ส่วนที่อยู่ทางทิศใต้ ดังนี้ โจทก์จะบังคับคดียึดที่ดินทั้งแปลงออกขายทอดตลาดให้ผู้ร้องกันเงินครึ่งหนึ่งที่ได้จากการขายทอดตลาด
มิได้ ผู้ร้องมีสิทธิขอให้ปล่อยที่ดินส่วนทางทิศเหนือของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 323 และต้องเสีย
ค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีทุนทรัพย์ (ปรับปรุงตามข้อกฎหมายใหม่จากข้อเท็จจริงตามฎีกาที่ 2883/2528)
(2) อายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำาพิพากษาที่จะเรียกให้บุคคลภายนอกชำาระเงิน
หรือส่งมอบทรัพย์สิน ยกตัวอย่างเช่น
ผู้ซื้อทรัพย์สินซึ่งติดจำานองโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำาพิพากษา ผู้ร้องซื้อที่ดินติดจำานองกับโจทก์มาจาก ศ. จึงเป็นผู้รับ
โอนทรัพย์จำานองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 735 โจทก์เพียงแต่บอกกล่าวบังคับจำานองไปยังผู้ร้องโดยมิได้ฟ้อง
ผู้ร้องเป็นจำาเลยด้วย มิใช่การบังคับจำานองตามมาตรา 728 เมื่อผู้ร้องไม่ใช่ลูกหนี้ตามคำาพิพากษา โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิยึดที่ดินของ
ผู้ร้องเพราะการบังคับคดีตามมาตรา 296 จะต้องเป็นกรณีที่โจทก์อ้างว่าทรัพย์ที่จะบังคับคดีเป็นของลูกหนี้ตามคำาพิพากษา ดังนี้
ต้องปล่อยที่ดินที่ยึด (เทียบเคียงฎีกาที่ 288/2537)
(3) อายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำาพิพากษาที่จะเรียกให้บุคคลภายนอก
ชำาระหนี้อย่างอื่นนอกจากที่กล่าวมาแล้วใน (2)
11
กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม