Page 15 - วารสารกรมบังคับคดี ปีที่ 23 ฉบับที่ 119 - กรมบังคับคดี
P. 15
ลูกหนี้เปลี่ยนชื่อขณะที่ศาลมีคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โฆษณาคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์ในชื่อใหม่ของลูกหนี้ ย่อมเป็นเหตุ
ทำาให้เจ้าหนี้ไม่อาจทราบได้ว่าลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์ กรณีถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษที่เจ้าหนี้ไม่อาจยื่นคำาขอรับชำาระหนี้ภายใน
2 เดือนนับแต่วันโฆษณาคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์ และถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย เจ้าหนี้จึงมีสิทธิยื่นคำาขอขยายระยะเวลาหลังจากสิ้นระยะเวลา
แล้วได้... (เทียบคำาพิพากษาศาลฎีกาที่ 806/2538) และมีคำาพิพากษาศาลฎีกาที่ 1199/2559 คดีนี้ โจทก์ฟ้องลูกหนี้เป็นคดีล้มละลาย
ศาลล้มละลายกลางมีคำาสั่งคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2553 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ 7620/2553
โจทก์ก็ไปยื่นคำาขอรับชำาระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีดังกล่าว แต่มาปรากฏภายหลังว่าลูกหนี้ถูกศาลล้มละลายกลาง
มีคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์ไว้ในคดีอื่นแล้ว ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2553 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงรายงานศาลขอจำาหน่ายคดีของโจทก์
โจทก์จึงมายื่นคำาขอรับชำาระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีนี้ แต่ก็พ้นกำาหนดระยะเวลาตามกฎหมายแล้ว ศาลฎีกา
วินิจฉัยว่า ...ก่อนที่ศาลล้มละลายกลางจะมีคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดอีก ในคดีหมายเลขแดงที่ 7620/2553
(คดีที่โจทก์ฟ้อง) ในวันที่ 15 มิถุนายน 2553 ศาลไม่ทราบลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์ในคดีนี้ก่อนไปแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ก็ประกาศโฆษณาคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด เจ้าหนี้ก็ได้ไปยื่นคำาขอรับชำาระหนี้ แสดงว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ก็ไม่เคยทราบว่าศาลล้มละลายกลางมีคำาสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดไปในคดีก่อนแล้ว ดังนั้น การที่เจ้าหนี้ไปยื่นคำาขอ
รับชำาระหนี้ในคดีดังกล่าวโดยมิได้ตรวจสอบว่าลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์ในคดีอื่นก่อนแล้วหรือไม่นั้น จึงเป็นผลจากการดำาเนินการ
ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และการดำาเนินกระบวนพิจารณาของศาลล้มละลาย ที่ทำาให้เจ้าหนี้เกิดความสำาคัญผิด หลงเข้าใจว่า
ลูกหนี้ไม่ได้ถูกพิทักษ์ทรัพย์ในคดีอื่น ถือได้ว่าเป็นกรณีมีเหตุสุดวิสัยที่เจ้าหนี้ไม่อาจยื่นคำาขอรับชำาระหนี้ในคดีนี้ได้ภายในระยะเวลา
ที่กฎหมายกำาหนด สมควรที่จะขยายระยะเวลายื่นคำาขอรับชำาระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้จนถึงวันที่เจ้าหนี้ยื่นคำาขอรับชำาระหนี้ และให้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รับคำาขอรับชำาระหนี้ของเจ้าหนี้ไว้ดำาเนินการต่อไป...
เนื่องจากมาตรา 91/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช2483 เป็นบทบัญญัติ
ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2558
ซึ่งใช้บังคับกับคดีล้มละลายที่มีการยื่นฟ้องตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
(ฟ้องตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2558) ดังนี้ จึงยังไม่มีแนวคำาวินิจฉัยของศาลฎีกา
เป็นบรรทัดฐานเกี่ยวกับการตีความคำาว่าเหตุสุดวิสัยตามมาตรานี้โดยตรง
การตีความและวินิจฉัยถึงเหตุสุดวิสัยตามมาตรานี้ จึงยังคงนำาหลักการ
13
กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม