Page 33 - วารสารกรมบังคับคดี ปีที่ 16 ฉบับที่ 82
P. 33

(2) ถาลูกหนี้ตามคำพิพากษาไดรับมอบใหเปนผูอารักขาสังหาริมทรัพยมีรูปรางที่ถูกยึดหรือ
                 เปนผูครอบครองอสังหาริมทรัพยที่ถูกยึด ลูกหนี้ชอบที่จะใชทรัพยสินเชนวานั้นไดตามสมควร แตถา
                 เจาพนักงานบังคับคดีเห็นวาลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะทำใหทรัพยที่ไดรับมอบไวในอารักขาหรือทรัพยสินที่อยูใน

                 ความครอบครองเสียหายหรือเกลือกจะเสียหายโดยเจาพนักงานบังคับคดีเห็นเอง หรือเมื่อเจาหนี้ตามคำพิพากษา
                 หรือบุคคลผูมีสวนไดเสียในการบังคับคดีแกทรัพยสินนั้นรองขอ เจาพนักงานบังคับคดีจะระวังรักษาทรัพยสิน
                 นั้นเสียเอง หรือตั้งใหผูใดเปนผูจัดการทรัพยสินนั้นก็ได”

                          ขอเท็จจริงจากคำถามเปนกรณีที่เจาพนักงานบังคับคดีไดพิจารณามอบหมายใหลูกหนี้ตามคำพิพากษา
                 เปนผูครอบครองอสังหาริมทรัพยที่ถูกยึด ลูกหนี้ตามคำพิพากษาจึงชอบที่จะใชประโยชนในอสังหาริมทรัพยนั้น

                 ไดตามสมควร สวนจะแคไหนเพียงไรคงตองขึ้นอยูกับขอเท็จจริงในแตละกรณีและดุลพินิจของเจาพนักงาน
                 บังคับคดีเจาของสำนวน

                                                           การยึดทรัพยสิน ไมไดมีผลเปนการตัดกรรมสิทธิ์จาก

                                                  เจาของทรัพยในทันทีจนกวาจะไดมีการขายทอดตลาดและเปลี่ยนแปลง
                                                  กรรมสิทธิ์ไปยังผูที่ซื้อทรัพยได ดังนั้น ในระหวางที่เจาพนักงานบังคับคดี
                                                  ยังขายทอดตลาดทรัพยไมได กรรมสิทธิ์จึงยังคงเปนของลูกหนี้ตาม
                                                  คำพิพากษาผูเปนเจาของทรัพยอยูเหมือนเดิม กฎหมายเพียงแคจำกัด

                                                  การใชสิทธิใหแคบลงกวาเจาของกรรมสิทธิ์โดยทั่วไปตามมาตรา 1336
                                                  แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย เชน หามกอใหเกิด โอนหรือ
                                                  เปลี่ยนแปลงซึ่งสิทธิในทรัพยสิน ทั้งนี้ก็ดวยผลของมาตรา 305 (1)
                                                  แหงประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพง


                          การที่เจาพนักงานบังคับคดีไดพิจารณามอบหมายใหเจาหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษา
                 หรือตั้งผูจัดการทรัพยสินขึ้น เพื่อเปนผูครอบครองอสังหาริมทรัพยที่ถูกยึดไวแทนนั้น เจาพนักงานบังคับคดี
                 ยังคงมีหนาที่รับผิดชอบในการดูแลรักษาทรัพยสินนั้นอยูจนกวาการบังคับคดีจะเสร็จสิ้น ตามแนวการวินิจฉัย
                 ในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 128/2521 สรุปความไดวา “เมื่อเจาพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของลูกหนี้

                 ตามคำพิพากษาแลว ยอมเปนผูยึดถือและมีสิทธิครอบครองที่ดินนั้นกับมีหนาที่รับผิดชอบในการดูแลรักษา
                 จนกวาจะเสร็จสิ้นการบังคับคดี ถาปรากฏวามีผูบุกรุกเขามาอยูในที่ดินดังกลาว อันเปนการรบกวนการครอบครอง
                 ของเจาพนักงานบังคับคดี  ก็ชอบที่เจาพนักงานบังคับคดีจะดำเนินการอยางหนึ่งอยางใดเพื่อที่จะใหการบังคับคดี
                 สำเร็จลุลวงไป การที่เจาพนักงานบังคับคดีมอบใหโจทกเปนผูรักษาที่ดินที่ยึดไว  หาทำใหเจาพนักงานบังคับคดี

                 หมดอำนาจหนาที่และพนความรับผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพง มาตรา 278 ไม”















                                                                                               วารสารกรมบังคับคดี 33
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38