Page 28 - วารสารกรมบังคับคดี ปีที่ 16 ฉบับที่ 82

ลดขอขัดแยงขอโตเถียงระหวางกัน สามารถอยูรวมกันในชุมชน
หรือทำธุรกิจรวมกัน ตลอดจนปฏิบัติตามสัญญาตอไปจนแลวเสร็จ
โดยไมกลายเปนชนวนลุกลามไปสูขอพิพาทที่รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

ซึ่งจะเปนผลดีตอทุกฝาย ทั้งยังสรางความสงบสุขใหแกชุมชน
การไกลเกลี่ยไมวาจะสำเร็จหรือไมก็ตาม ทำใหคูกรณีหันกลับมา
เจรจากันได เปนการลดความตึงเครียดระหวางคูกรณี ซึ่งรวมถึง

การไกลเกลี่ยไมวาจะสำเร็จหรือไมก็ตาม ญาติพี่นองและพรรคพวกอีกดวย ในกรณีที่สามารถยุติขอพิพาท
ไดอยางสันติก็สามารถกลับไปอยูรวมกันในสังคมไดอยางปกติสุข
ทำใหคูกรณีหันกลับมาเจรจากันได รวมกันพัฒนาสังคมของตนไดตอไป

เปนการลดความตึงเครียด ดังนั้น จึงสามารถสรุปประโยชนของการไกลเกลี่ย
ขอพิพาทชั้นบังคับคดีไดดังนี้
ระหวางคูกรณี ก. ประหยัดเวลาและคาใชจาย (Saving of time

and money) เทียบกับเวลาที่ใชในการดำเนินการบังคับคดีแลว
การไกลเกลี่ยขอพิพาทอาจใชเวลาเพียงสัปดาห วันหรือชั่วโมง
อันเปนการประหยัดเวลาและคาใชจายของทั้งคูความและ

ทางราชการ
ข. เปนที่ยุติ (Finality) คดีที่คูกรณีสามารถตกลง
กันไดโดยวิธีการไกลเกลี่ยนั้น ทำใหการบังคับคดีเสร็จสิ้นไป
ไมมีปญหาการรองเพิกถอนการบังคับคดีตามมา

28 วารสารกรมบังคับคดี