Page 12 - หลักประกันเพื่อการประกอบธุรกิจ การประกันการชำระหนี้ด้วยบุคคล - กรมบังคับคดี
P. 12
คู่มือ หลักประกันเพื่อการประกอบธุรกิจ
การประกันการชำาระหนี้ด้วยบุคคล
สัญญาค�้าประกันต้องมี
“หลักฐานเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อผู้ค�้าประกัน”
นอกจากนี้ ในกรณีสัญญาค�้าประกัน “หนี้ในอนำคต” เช่น
การค�้าประกันหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี การค�้าประกันการท�างาน
ของลูกจ้างหรือ “หนี้ที่มีเงื่อนไข” หนี้ทั้ง 2 ประเภทนี้หนี้ประธาน
อาจยังไม่เกิดขึ้นในวันท�าสัญญาค�้าประกัน สัญญาค�้าประกันจึงต้อง
ระบุรายละเอียดดังต่อไปนี้
(1) วัตถุประสงค์ในการก่อหนี้ประธาน
(2) ลักษณะหรือรายละเอียดของหนี้ประธาน
(3) จ�านวนเงินสูงสุดที่ค�้าประกัน
(4) ระยะเวลาในการก่อหนี้ประธาน
เพราะกฎหมายต้องการคุ้มครองผู้ค�้าประกันให้ได้รับความเป็นธรรม
ในการเข้าท�าสัญญา ผู้ค�้าประกันเป็นเพียงลูกหนี้ชั้นรองและไม่มีอ�านาจ
การต่อรองในทางธุรกิจมากนัก ในทางปฏิบัติแต่เดิมสัญญาค�้าประกันจึงมัก
ระบุความรับผิดของผู้ค�้าประกันอย่างกว้างขวาง เช่น “ผู้ค�้ำประกันรับผิด
ในบรรดำหนี้ทั้งปวงที่อำจเกิดขึ้นในอนำคตทั้งหมดทุกประกำร” ดังนั้น
กฎหมายจึงก�าหนดให้สัญญาต้องมีรายเอียดต่างๆ เพื่อให้ผู้ค�้าประกันได้ทราบ
ถึงรายละเอียดของหนี้ที่ค�้าประกัน เช่น ค�้าประกันในหนี้เงินกู้เพื่อการด�าเนิน
กิจการของลูกหนี้เท่านั้นไม่รวมถึงเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของลูกหนี้ การก�าหนด
ขอบเขตความรับผิดของผู้ค�้าประกันไว้อย่างชัดเจน เช่น ไม่เกิน 10 ล้านบาท
เป็นต้น รวมถึงระยะเวลาการก่อหนี้ประธานที่ผู้ค�้าประกันจะต้องรับผิด
ยกเว้นแต่กรณีที่หนี้ประธานเป็นสัญญาบัญชีเดินสะพัด (สัญญาเบิกเงิน
เกินบัญชี) หรือสัญญาที่ก่อหนี้หมุนเวียนต่อเนื่องกัน
11
คู่มือ หลักประกันเพื่อการประกอบธุรกิจ
การประกันการชำาระหนี้ด้วยบุคคล