Page 38 - วารสารกรมบังคับคดี ปีที่ 23 ฉบับที่ 118 - กรมบังคับคดี
P. 38
$
$
$
$
$
$
ข้อ 2 จำาเลยตกลงยินยอมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงพิพาทให้กับโจทก์ และยอมรับเงิน
ค่าราคาที่ดินส่วนที่เหลือจำานวน 2,000,000.- บาท ไว้จากโจทก์ โดยจำาเลยจะดำาเนินการจดทะเบียน
โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงพิพาทและรับเงินจำานวนดังกล่าวจากโจทก์ ณ สำานักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร
ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 โดยฝ่ายโจทก์เป็นผู้ออกค่าธรรมเนียม หรือค่าภาษีอากรทั้งหมด
ข้อ 3 ในกรณีที่จำาเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา ให้โจทก์มีสิทธินำาเงินจำานวน 2,000,000.- บาท ไปวางไว้ให้
จำาเลย ณ สำานักงานวางทรัพย์ กรมบังคับคดี และให้โจทก์มีสิทธินำาหลักฐานการวางเงินดังกล่าว พร้อมสำาเนา
คำาพิพากษาตามยอมในคดีนี้ไปยื่นเพื่อขอจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของโจทก์ โดยให้ถือเอา
คำาพิพากษาตามยอมของศาลเป็นการแสดงเจตนาของจำาเลยในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่โจทก์แล้ว
ข้อ 4 โจทก์และจำาเลยตกลงยินยอมตามข้อ 1 ถึง ข้อ 3
ข้อ 5 ค่าฤชาธรรมเนียมในส่วนที่ศาลไม่สั่งคืน และค่าทนายความให้เป็นพับ”
เห็นว่า การที่โจทก์และจำาเลยได้ร่วมใจกันตกลงระงับข้อพิพาทตามที่ได้ฟ้องร้องเป็นคดีนี้ โดยทำาสัญญา
ประนีประนอมยอมความกัน และศาลได้มีคำาพิพากษาตามยอมกรณีย่อมมีผลทำาให้คดีเป็นอันเสร็จไป
เมื่อจำาเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ย่อมสามารถใช้คำาพิพากษาตามยอมแทนการแสดงเจตนาของจำาเลย
โอนที่ดินเป็นของโจทก์ได้ โดยการปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อ 3 ดังกล่าว การบังคับคดี
ในลักษณะนี้จึงมิใช่เป็นการบังคับคดีที่จะต้องดำาเนินการโดยทางเจ้าพนักงานบังคับคดี ดังนั้น โจทก์จึงไม่ต้อง
ร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีแต่ประการใด
36
กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม