วันนี้ (12 ธันวาคม 2561) เวลา 08.30 น. กรมบังคับคดี โดยสำนักงานบังคับคดีจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และศูนย์ดำรงธรรม ให้บริการรับเรื่องราวร้องทุกข์และให้คำปรึกษาทางกฎหมาย ณ จุดบริการรับเรื่องราวร้องทุกข์ วัดศรีโสภณธรรมทาน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายภารกิจ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ กรณีการรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งมีหน่วยงานในส่วนกลาง และกรมบังคับคดีเข้าร่วม โดยในส่วนของกรมบังคับคดี ซึ่งมีนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี พร้อมด้วยนางสาวสายรุ้ง มารมย์ รองอธิบดีกรมบังคับคดี ว่าที่ร้อยตรี ดนัย นนทะชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดบึงกาฬ และเจ้าหน้าที่สำนักงานฯ ได้ร่วมลงพื้นที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และให้คำปรึกษาทางกฎหมาย พร้อมแจกเอกสารเผยแพร่เกี่ยวกับภารกิจของกรมบังคับคดี และความรู้กฎหมายทั่วไปให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยภายในงานได้รับเกียรติจากพันเอกคฑาวุธ ขจรกิตติยุทธ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยมีประชาชนขอรับคำปรึกษาทางกฎหมาย จำนวน 2 ราย รายแรกขอคำปรึกษาเรื่องถูกศาลพิพากษาเป็นคดีอาญาให้ออกจากที่สาธารณะ โดยมีหมายบังคับคดีของศาลแล้ว ทั้งนี้ผู้ร้องได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อให้มีคำสั่งว่า ที่ที่ถูกขับไล่ในคดีอาญานั้นเป็นที่ราษฎรไม่ใช่ที่สาธารณะ โดยสำนักงานบังคับคดีจังหวัดบึงกาฬได้แนะนำขั้นตอนเกี่ยวกับการบังคับคดีปิดประกาศขับไล่ ต้องให้โจทก์มาแถลงนำเจ้าพนักงานบังคับคดีออกไปปิดประกาศขับไล่ แต่เนื่องจากขณะนี้โจทก์ยังไม่ได้มานำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปปิดประกาศขับไล่ นอกจากนี้ได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบว่า ผู้ร้องสามารถยื่นคำร้องเข้าในคดีอาญาได้ ในกรณีที่ประสงค์จะให้ศาลสั่งงดการบังคับคดีชั่วคราวเพื่อรอฟังผลคำวินิจฉัยของศาลปกครอง อีกรายผู้ร้องประสงค์จะได้ทรัพย์คืนแต่เนื่องจากผู้ร้องไม่สามารถหาตัวผู้ซื้อทรัพย์ประกอบกับทรัพย์ได้ถูกนำไปจำนองกับธนาคารออมสินแล้ว แต่เนื่องจากกรณีนี้ยังไม่มีการฟ้องร้องบังคับจำนอง ได้จัดให้ผู้ร้องพบกับธนาคารออมสินในเบื้องต้น ผู้จัดการธนาคารออมสินแจ้งว่า หากพบตัวผู้ซื้อให้ผู้ซื้อ ผู้ร้องมาเจรจาหรือถ้าเป็นกรณีล่วงเลยจนถูกบังคับฟ้องจำนอง ผู้ร้องสามารถมาซื้อทรัพย์คืนได้จากสำนักงานบังคับคดี ทั้งนี้ การให้บริการดังกล่าวเป็นการบูรณาการการให้บริการรับเรื่องร้องทุกข์และให้คำปรึกษาทางกฎหมาย แนะนำการแก้ไขปัญหาให้เบ็ดเสร็จในจุดบริการเดียว เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่เดินทางมายื่นเรื่องร้องทุกข์และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนให้กับประชาชนต่อไป